When will you stop? Or the world will end!

When will you stop? Or the world will end!

Experts in sustainable agriculture development urge for a change in agrifood system production. Or, a future lies blind.

Representative from a private biological control company in Thailand joins the field trip at the Clean Agriculture Development Center as part of the recent 6th Project Partner Meeting of the ASEAN Sustainable Agrifood Systems (ASEAN SAS).

Policy is needed, private company must agree, consumer have to value and farmer can just start, these were voiced by the experts during private interviews at the recent 6th Project Partner Meeting of the ASEAN Sustainable Agrifood Systems (ASEAN SAS) in Vientiane, Lao PDR.

Policy based on actual situations must be formulated and implemented.

“We face problems like the overuse of the agricultural lands. We plant every season without considering giving back what is taken from the soil. The excessive use of chemical fertilizers and chemicals is the natural calamities,” said Mr. Gerald Cammagay, a Science Research Specialist from the Philippines. “Government has to do his job to really know what the real situation is. And upon knowing the real situation they will base those real experience, real situations in formulation of good policies and that would be very good for the farmers [and everyone],” said Mr. Cammagay from Organic Agriculture Division.

Responsible agriculture has to be seen as the sole option for sustainable future and all parties in a value chain need to acknowledge and change their attitudes and practices, said the experts from ASEAN countries.

Staff waters vegetables at the Good Agriculture Practice Demo Plot in Lao PDR during the visit of the 6th Project Partner Meeting of the ASEAN Sustainable Agrifood Systems (ASEAN SAS)’s experts.

“What is most important is not a big quantity production of agriculture food, but the food we produce must be safe to consume to everybody,” said Mr. Ismail Iberahim from Department of Agriculture, Malaysia. “Farmers [and people] in developed countries are going for safe food and environment conservation. If possible, they do not want to use chemicals. But in developing countries, farmers are just thinking to get the high volume of a produce with good looking products. They also want the fast results and not thinking about tomorrow. They only think for today. I wish one day our farmers [and people] can change their attitude towards sustainable agriculture,” said Mr. Iberahim, Principal Assistant Director of Plant Biosecurity Division.

Head of Crop Protection unit from Brunei Darussalam shared similar ideas. Agriculture these days focus on high production and making higher yields, but we cannot forget it is our natural resources we are using, Mr. Noor Azri Bin Haji Mohamad Noor said. “If we do not care about the ecosystems and we damage the soil and our environment, then where are we going to plant in the future?

“I do hope that farmers and also private sector can come to an agreement someday that sustainable agriculture is the way to go. So we can always get their supply without damaging the environment,” said Mr. Noor from Department of Agriculture.

Staff at the Clean Agriculture Development Center Demo plot in Lao PDR are preparing the land for the next cycle of cropping.

People should learn from mistakes and take a better care of the earth, said Vice Dean of Faculty of Agriculture from Indonesia. Dr. Syaiful Anwar said: “People must aware of negative impacts from exploiting the environment”. In the food system, because we have to produce enough food for people, and then we create technologies that will support us to produce more. We add fertilizers and pesticides and using of machinery that are using the fossil fuels and they cause global warming.

“These are some mistakes. As human beings we have to care about the earth we are living in. If not, the earth will become much worse and one day it will be the end of the world,” said Dr. Anwar.

Recently, over70 experts from ten ASEAN Member States met in Lao PDR to mark the ASEAN SAS project’s mid-term milestone and discuss emerging issues and challenges to food security, including environment and climate changes in order to develop strategies for project activities post 2015. ASEAN SAS, since the inception of the second phase in 2014, has implemented activities under three priority areas namely policy framework, production technologies and market linkages to encourage regional cooperation in promoting sustainable food production at the national level as well as enhancing synergies and boosting greater impact in respective countries.

“To achieve sustainable agrifood systems, it requires close collaboration among stakeholders along the value chain, including governments, farmers, civil society, consumers, and last but not least, the private sector,” said Dr. Matthias Bickel, Project Director of ASEAN SAS at the 6th  Project Partner Meeting and related meetings in Vientiane. The Meetings run on 17-20 November 2015 co-hosted by the Department of Agriculture, Ministry of Agriculture and Forestry of Lao PDR. Readmore

See more pictures, click here

ข่าวภาษาไทย

เมื่อมนุษย์ไม่หยุด…โลกก็จะไม่อยู่

ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืนได้เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการผลิตอาหาร-เกษตรก่อนจะสายเกินไป โดยผู้เชี่ยวชาญต่างย้ำในทิศทางเดียวกันถึงการจัดทำนโยบาย ความเห็นพ้องจากภาคเอกชน ความตระหนักของผู้บริโภค และการเริ่มสร้างวิถีของเกษตรกร ระหว่างการเข้าร่วม ‘ประชุมภาคีความร่วมมือของโครงการระบบอาหาร-เกษตรแบบยั่งยืนแห่งอาเซียน ครั้งที่  6  ณ. นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อเร็วๆนี้

โดยการจัดทำนโยบายนั้นต้องอิงกับสถานะการณ์ที่ดำเนินอยู่และเกิดขึ้นจริงและต้องนำไปปฏิบัติใช้อย่างจริงจัง คุณ เจอรัลด์ แคมมาเก นักวิจัยวิทยาศาสตร์ชำนาญการ แผนกเกษตรอินทรีย์ จากประเทศฟิลิปปินส์ ให้ความเห็นถึงปัญหาในปัจจุบันที่เกิดขึ้น คือการที่มนุษย์ไม่ตระหนักในการตอบแทนคุณค่าของดิน ใช้พื้นที่เพาะปลูกโดยไม่เว้นช่วงให้ดินพัก ไม่ฟื้นฟู หรือบำรุงดิน และมีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีในปริมาณสูง ซึ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดความหายนะแก่ธรรมชาติ คุณ เจอรัลด์ กล่าวว่าภาครัฐต้องศึกษาและเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ และเมื่อนั้นภาครัฐจะสามารถจัดทำนโยบายที่ดี ที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและประชาชนทุกคนได้อย่างแท้จริง

บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังได้แสดงความคิดเห็นว่าการทำเกษตรแบบรับผิดชอบนั้นเป็นเพียงหนทางเดียวที่จะนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน คือ เกษตรกรทุกคนจะต้องมองถึงความยั่งยืนทางเกษตรในอนาคต และคนในทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตระหนักและเปลี่ยนทัศนคติและวิธีปฏิบัติให้สอดคล้องเพื่อความยั่งยืนนั้น

คุณ อิสเมล ไอเบอราฮิม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ แผนกความปลอดภัยทางชีวภาพด้านพืช จากกรมวิชาการเกษตร ประเทศมาเลเซีย กล่าวถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดในการผลิตอาหาร-เกษตรว่าไม่ใช่ปริมาณที่สามารถผลิตได้ แต่คือความปลอดภัยของผู้บริโภคทุกคนที่บริโภคอาหารนั้นๆ  จะเห็นได้ว่าเกษตรกรในประเทศที่พัฒนาแล้วจะมุ่งเน้นการผลิตอาหารแบบปลอดภัยและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และลดการใช้สารเคมีแต่ในทางกลับกัน เกษตรกรในประเทศที่กำลังพัฒนากลับมุ่งเน้นที่ปริมาณผลผลิตเป็นหลัก เน้นถึงการให้ผลเร็ว และผลผลิตที่ดูสวยงามไม่มีตำหนิรอยหนอนเจาะ โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คุณ อิสเมลกล่าวถึงความหวังที่จะได้เห็นเกษตรกรในประเทศที่กำลังพัฒนาเปลี่ยนทัศนคติและวิธีปฏิบัติเพื่อทำการเกษตรแบบยั่งยืนสักวันหนึ่ง

ส่วนคุณ นอร์ อัศศริ บิล ฮาจิ โมฮัมเหม็ด นอร์ หัวหน้าหน่วยอารักขาพืช จากกรมวิชาการเกษตรและพืชอาหาร ประเทศบรูไน แสดงความคิดเห็นที่คล้ายคลึงกันว่าการทำเกษตรทุกวันนี้มุ่งเน้นที่ปริมาณผลผลิต ทำอย่างไรให้ได้ผลผลิตมาก โดยไม่คำนึงถึงทรัพยากรธรรมชาติที่มนุษย์ได้ใช้ไป  และหากมนุษย์ไม่ใส่ใจระบบนิเวศน์ ยังทำลายดินและสิ่งแวดล้อมให้ทรุดโทรมอย่างต่อเนื่อง อนาคตมนุษย์จะเพาะปลูกพืชได้อย่างไร คุณ นอร์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะให้เกิดขึ้น คือเกษตรกรและภาคเอกชนเห็นพ้องต้องกันว่าการทำเกษตรแบบยั่งยืนเป็นแนวทางที่ต้องก้าวเดินไปเพื่อให้ได้ผลผลิตแบบไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ดร. ไซยอิฟูล อันวาห์ รองคณบดีภาควิชาเกษตร จากประเทศอินโดนีเซียกล่าวว่า มนุษย์ควรเรียนรู้จากข้อผิดพลาด และดูแลรักษาโลกให้ดีขึ้น  มนุษย์ต้องตระหนักถึงผลกระทบจากการใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมแบบไม่ถูกทาง ในการผลิตอาหาร เราจำเป็นต้องผลิตอาหารให้เพียงพอ จึงอาศัยเทคโนโลยีเพื่อมุ่งผลิตอาหารให้ได้มาก ใช้ปุ๋ยและสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และนำเครื่องจักรที่ใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิลในการทำการเกษตร ซึ่งเหล่านี้ คือสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน  และในฐานะที่เราเป็นมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้ เราต้องดูแลโลกใบนี้ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีโลกให้เราได้อยู่

เมื่อเร็วๆนี้ ผู้บริหาร และผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ จำนวนกว่า 70 คน ได้พบกันที่นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐ ประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 17-20 พฤศจิกายน 2558  เพื่อเข้าร่วมใน ‘การประชุมภาคีความร่วมมือของโครงการระบบอาหาร-เกษตรแบบยั่งยืนแห่งอาเซียน ครั้งที่  6’  ในการแลกเปลี่ยนสรุปผลการทำงานของโครงการในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา และวางแผนร่วมกันสำหรับอีก 2 ปีที่จะก้าวต่อไป ในการประชุมนี้ได้มีการพูดคุยในประเด็นท้าทายและปัญหาที่เกิดขึ้นในด้านความมั่นคงทางอาหาร ตลอดรวมไปถึงด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อปรับเตรียมกลยุทธ์ในการทำงานของโครงการต่อไปในอนาคต

โดย ดร. แมธเธียส บิกเคล ผู้อำนวยการโครงการฯ เน้นในที่ประชุมภาคีความร่วมมือครั้งนี้ว่าในการส่งเสริมระบบอาหาร-เกษตรแบบยั่งยืนแห่งอาเซียนให้เกิดความสำเร็จนั้น ต้องมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของหน่วยงานทุกภาคส่วนที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิต ทั้งส่วนของภาครัฐ เกษตรกร ชุมชน ผู้บริโภค และภาคเอกชน โดยการประชุมครั้งนี้กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและป่าไม้แห่งสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวร่วมเป็นเจ้าภาพ โครงการฯ ดำเนินการภายใต้กรอบหลัก 3 ด้านคือ ด้านนโยบาย เทคโนโลยีการผลิต และการเชื่อมโยงตลาด เพื่อกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือระดับภูมิภาคในการส่งเสริมการผลิตอาหารอย่างยั่งยืนในระดับประเทศ โดยมุ่งหวังให้เกิดการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดผลในวงกว้าง

เรื่องและภาพโดย รจนา มโนวลัยเลา โครงการระบบอาหาร-เกษตรแบบยั่งยืนแห่งอาเซียน

By Rojana Manowalailao, ASEAN Sustainable Agrifood Systems